วิเคราะห์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ เวสต์แฮมยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าบ้าน ปีศาจแดง กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากสุดขีดในลีก รั้งอันดับที่ 15 ของตารางคะแนน ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็นอย่างมาก พวกเขาต้องการชัยชนะอย่างยิ่งยวดเพื่อกอบกู้ศรัทธาแฟนบอลและขยับอันดับหนีโซนท้ายตาราง แม้ฟอร์มในลีกจะย่ำแย่ แต่การได้เล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ย่อมหวังถึงจุดเปลี่ยน ทางฝั่ง ขุนค้อน เวสต์แฮมยูไนเต็ด ผู้มาเยือน สถานการณ์ก็ย่ำแย่ไม่แพ้กัน อยู่อันดับที่ 17 มีคะแนนเหนือโซนตกชั้นเพียงเล็กน้อย (ตามอันดับ) พวกเขาจึงต้องการทุกคะแนนเพื่อความอยู่รอด การมาเยือนถิ่นปีศาจแดงในเกมนี้จึงมีความหมายอย่างยิ่งยวด

การพบกันครั้งล่าสุดของทั้งสองทีมต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024 ในศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดโรงละครแห่งความฝันไล่ถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปอย่างขาดลอย 3-0 หากมองในภาพรวมสถิติการดวลกัน 10 นัดหลังสุดในทุกรายการ ปีศาจแดง ดูเหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยกระชากชัยไปได้ถึง 6 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง และเป็น ขุนค้อน ที่คว้าชัยไป 3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม หากเจาะลึกลงไปใน 5 เกมหลังสุดที่เจอกัน เวสต์แฮมกลับทำได้ดีขึ้น ชนะไปถึง 2 ครั้ง (สกอร์ 2-0 และ 1-0 ในบ้านของพวกเขา) และแพ้ 3 ครั้ง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าขุนค้อนก็พร้อมสร้างปัญหาให้ยูไนเต็ดได้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาได้เล่นในลอนดอน สเตเดี้ยม แต่เกมนี้ยูไนเต็ดได้เปรียบที่เล่นในบ้าน

• 

  2 - 1

  
  เวสต์แฮมยูไนเต็ด

  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2024-10-27
• 

  3 - 0

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2024-02-04
• 

  2 - 0

  
  เวสต์แฮมยูไนเต็ด

  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2023-12-23
• 

  1 - 0

  
  เวสต์แฮมยูไนเต็ด

  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2023-05-07
• 

  3 - 1

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  เอฟเอคัพ 2023-03-02
• 

  1 - 0

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2022-10-30
• 

  1 - 0

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2022-01-22
• 

  0 - 1

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  อีเอฟแอลคัพ 2021-09-22
• 

  1 - 2

  
  เวสต์แฮมยูไนเต็ด

  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2021-09-19
• 

  1 - 0

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2021-03-15
• 

  0 - 0

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  เอฟเอคัพ 2021-02-10
• 

  1 - 3

  
  เวสต์แฮมยูไนเต็ด

  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2020-12-05
• 

  1 - 1

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2020-07-22
• 

  2 - 0

  
  เวสต์แฮมยูไนเต็ด

  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2019-09-22
• 

  2 - 1

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2019-04-13
• 

  3 - 1

  
  เวสต์แฮมยูไนเต็ด

  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2018-09-29
• 

  0 - 0

  
  เวสต์แฮมยูไนเต็ด

  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2018-05-10
• 

  4 - 0

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2017-08-13
• 

  0 - 2

  
  เวสต์แฮมยูไนเต็ด

  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  พรีเมียร์ลีก 2017-01-02
• 

  4 - 1

  
  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  เวสต์แฮมยูไนเต็ด
  อีเอฟแอลคัพ 2016-12-01

รูเบน อโมริม กุนซือของทีม มีลิสต์ผู้เล่นบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าว ประกอบไปด้วย มัตไตจ์ส เดอ ลิกท์ (CB), โยชูอา เซิร์คซี (CF), อายเดน เฮเวน (CB), ลิซานโดร มาร์ติเนซ (CB), ดิโอโก ดาล็อต (RB), โทบี้ คอลลีเยอร์ (DM) และ นูส์แซร์ มาซราอูย (RB) ซึ่งรายหลังสุดมีชื่อลงเล่นในเกมล่าสุด แต่กลับมีชื่อในลิสต์บาดเจ็บอีกครั้ง สร้างความปวดหัวในการจัดทัพไม่น้อย ฟอร์มล่าสุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับที่ 15 เกมล่าสุด (ยูฟ่ายูโรปาลีก) เปิดบ้าน ชนะ แอธเลติก บิลเบา 4-1 ฟอร์มล่าสุด 6 เกมหลังสุด ชนะ 2 เกม เสมอ 2 เกม แพ้ 2 เกม (นับทุกรายการ) สถิติที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ชนะใครถึง 8 จาก 10 เกมหลังสุดในทุกรายการ แต่ก็ยังดีที่ยิงประตูได้ต่อเนื่อง 4 เกมติดต่อกัน และเสียประตูมา 2 เกมติดเช่นกัน สถิติเกมที่ทั้งสองทีมยิงประตูได้เกิดขึ้น 6 จาก 9 เกมหลัง และมีสกอร์รวมมากกว่า 2.5 ประตูถึง 6 จาก 9 เกม ฟอร์มในลีกจัดว่าน่าเป็นห่วงอย่างหนัก ไม่ชนะใครมา 6 เกมติดต่อกันแล้ว (เสมอ 2 แพ้ 4) และแพ้ไปถึง 4 จาก 6 เกมลีกหลังสุด การยิงประตูในลีกยังพอทำได้ (7 จาก 10 เกม) แต่เกมรับคือปัญหาใหญ่ เสียประตูถึง 8 จาก 10 เกมลีก ฟอร์มการเล่นในบ้านรวมทุกรายการก็ไม่สู้ดีนัก ไม่ชนะใคร 5 จาก 8 เกมหลังสุด แต่เกมในบ้านมักจะมีประตูเกิดขึ้น โดยทั้งสองทีมยิงประตูได้ถึง 7 จาก 10 เกมเหย้าหลังสุด ส่วนในลีก พวกเขาไม่ชนะในบ้านมา 3 เกมติดต่อกันแล้ว (เสมอ 1 แพ้ 2) และไม่ชนะใคร 4 จาก 5 เกมลีกในบ้าน ฟอร์มโดยรวมถือว่าย่ำแย่ในลีก แม้จะมีความหวังเล็กๆ จากชัยชนะสวยหรูในยูโรปาลีก แต่ปัญหาหลักคือความไม่สม่ำเสมอและเกมรับที่เปราะบางเหลือเกิน คาดว่า อโมริม จะยังคงยึดมั่นในระบบการเล่น 3-4-2-1 โดยมีผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามดังนี้: ผู้รักษาประตู: อัลทาย บายินเดียร์ กองหลัง: ลุค ชอว์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ไทเลอร์ เฟรดริกสัน วิงแบ็ก/กองกลาง: แฮร์รี่ อามาส, ค็อบบี ไมนู, มานูเอล อูการ์เต้, อาหมัด ดียาโล กองกลางตัวรุก: อเลฮานโดร การ์นาโช่, เมสัน เมาท์ กองหน้า: โอบี-มาร์ติน

เกรแฮม พอตเตอร์ นายใหญ่ของ ขุนค้อน มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บรบกวนเช่นกัน โดยเฉพาะในแนวรุกที่ต้องขาด มิคาอิล อันโตนิโอ (CF) ส่วนผู้เล่นรายอื่นที่ถูกระบุในข้อมูลว่าบาดเจ็บ (ซน ฮึง-มิน, ราดู ดรากูซิน, ดอมินิก โชลังเก, เจมส์ แมดดิสัน, ลูคัส เบิร์กวัลล์, คริสเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์) ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากเป็นผู้เล่นของสโมสรอื่น ดังนั้นจะนับเพียง อันโตนิโอ ที่เป็นผู้เล่นของทีมจริงๆ ฟอร์มล่าสุด เวสต์แฮมยูไนเต็ด อันดับที่ 17 เกมล่าสุด (พรีเมียร์ลีก) เปิดบ้าน เสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-1 ฟอร์มล่าสุด 6 เกมหลังสุด ชนะ 0 เกม เสมอ 3 เกม แพ้ 3 เกม (นับทุกรายการ) ผลงานโดยรวมของทีมขุนค้อนเข้าขั้นวิกฤต ไม่ชนะใครมา 8 เกมติดต่อกันในทุกรายการ แต่ยังดีที่ยิงประตูได้ต่อเนื่อง 5 เกมซ้อน ทว่าเกมรับก็รั่วสนิท เสียประตูมา 8 เกมรวดเช่นกัน สถิติเกมที่ทั้งสองทีมยิงประตูได้เกิดขึ้นถึง 5 เกมติดต่อกัน ฟอร์มในลีกก็ย่ำแย่ไม่ต่างกัน ไม่ชนะใคร 8 เกมติดต่อกันแล้ว (เสมอ 3 แพ้ 5) และเสียประตูต่อเนื่อง 8 เกมลีกเช่นกัน ฟอร์มการเล่นเกมเยือนคือหายนะของจริง ไม่ชนะใครนอกบ้าน 4 เกมติดต่อกันในทุกรายการ (เสมอ 1 แพ้ 3) และแพ้เกมเยือน 3 นัดรวด ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่ชนะเกมเยือนถึง 8 จาก 10 นัดหลังสุด และแพ้ไปถึง 8 จาก 9 เกมเยือนล่าสุดในทุกรายการเลยทีเดียว ในลีก พวกเขาก็ไม่ชนะเกมเยือน 4 เกมติดต่อกัน (เสมอ 1 แพ้ 3) และไม่ชนะเกมเยือนในลีก 7 จาก 9 นัดหลัง ฟอร์มโดยรวมอาการหนักมาก ไม่เห็นแววว่าจะกลับมาได้ง่ายๆ ทั้งเกมรุกที่พอมีประตูแต่ไม่คมพอ และเกมรับที่พร้อมจะเสียประตูทุกเมื่อ คาดว่า พอตเตอร์ อาจปรับมาใช้ระบบ 3-4-3 เพื่อเน้นเกมรุกมากขึ้น หรืออาจปรับเป็น 5-4-1 เมื่อตั้งรับ ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม (ตามข้อมูลที่ให้มา แม้จะมีชื่อผู้เล่นที่น่ากังขาปะปนอยู่): ผู้รักษาประตู: อัลฟงส์ อาเรโอลา กองหลัง: อารอน เครสส์เวลล์, แม็กซ์ คิลแมน, ฌ็อง-แกลร์ โตดิโบ วิงแบ็ก/กองกลาง: เอเมอร์สัน ปัลมิเอรี่, ลูคัส ปาเกต้า, โตมาช ซูเช็ค, แอรอน วาน-บิสซากา กองหน้า: โมฮัมเหม็ด คูดุส, นิคลาส ฟืลล์ครูก, จาร์รอด โบเวน

เกมนี้เป็นการโคจรมาพบกันของสองทีมที่ฟอร์มในลีกกำลังเข้าตาจน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการสามคะแนนในบ้านอย่างที่สุดเพื่อเรียกความมั่นใจและทำอันดับให้ดีขึ้น หลังโชว์ฟอร์มเทพในยูโรปาลีกมาหมาดๆ พวกเขาน่าจะพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ตามสไตล์ของอโมริม โดยอาศัยการขึ้นเกมจากวิงแบ็กและความสามารถเฉพาะตัวของแนวรุกอย่าง การ์นาโช่ และ เมาท์ โดยมี โอบี-มาร์ติน รอจบสกอร์ คีย์แมนของเจ้าบ้านยังคงเป็น อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่ความเร็วและความคล่องตัวสามารถสร้างปัญหาให้แนวรับคู่แข่งได้เสมอ ส่วน เวสต์แฮม ของ เกรแฮม พอตเตอร์ สถานการณ์บีบให้ต้องมีแต้มติดมือกลับออกไปเช่นกัน แต่ด้วยฟอร์มเยือนที่ย่ำแย่สุดๆ และการไม่ชนะใครมานานหลายนัด คาดว่าพวกเขาจะมาเน้นตั้งรับให้เหนียวแน่นไว้ก่อน แล้วรอหาจังหวะสวนกลับเร็ว โดยมี จาร์รอด โบเวน และ โมฮัมเหม็ด คูดุส เป็นตัวความหวังในการทะลวงแนวรับเจ้าถิ่น ซึ่ง ลูคัส ปาเกต้า จะคอยปั้นเกมจากแดนกลาง รูปเกมน่าจะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ครองบอลบุกมากกว่า แต่ด้วยปัญหาเกมรับที่เสียประตูง่ายทั้งคู่ ทำให้มีโอกาสสูงที่เกมนี้จะมีการยิงประตูกันทั้งสองฝั่ง อย่างไรก็ตาม ด้วยเสียงเชียร์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด และแรงกระตุ้นจากชัยชนะในเกมยุโรป บวกกับฟอร์มที่ย่ำแย่กว่าของทีมเยือน ทำให้เชื่อว่า ปีศาจแดง น่าจะมีลูกฮึดเบียดคว้าชัยไปได้อย่างหวุดหวิด หรืออย่างน้อยก็ไม่แพ้
สกอร์ที่คาด: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 1 เวสต์แฮมยูไนเต็ด
ฟันธง:กัดฟันอยู่ข้าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในบ้านน่าจะพอประคองตัวเก็บสามแต้มสำคัญได้