โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันว่าจะไม่เร่งส่ง โรดรี้ กองกลางตัวเก่งที่เพิ่งฟื้นจากการผ่าตัดเอ็นไขว้เข่าด้านหน้าลงสนามเป็นตัวจริงในเกมพรีเมียร์ลีกที่จะบุกเยือน ฟูแล่ม วันเสาร์นี้ โดยให้เหตุผลว่าความสำคัญของนักเตะสเปนผู้นี้มีมากเกินกว่าที่จะเสี่ยงใช้งานทั้งที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย

           สถานการณ์บนตารางคะแนนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในขณะนี้ต้องการอีกเพียง 1 แต้มก็จะการันตีโควตาไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ทำให้การเสี่ยงใช้งาน โรดรี้ ที่เพิ่งกลับมาดูไม่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงภารกิจในฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ช่วงกลางเดือนหน้า และโปรเจกต์ระยะยาวภายใต้สัญญาที่เหลือของ กวาร์ดิโอล่า

           แม้ว่าเกมล่าสุดที่เอาชนะ บอร์นมัธ เอเอฟซี 3-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โรดรี้ ได้ลงสนามในฐานะตัวสำรองเพื่อเคาะสนิม แต่ เป๊ป ก็ย้ำชัดว่า "เรายินดีมากๆ ที่ได้เขากลับมา ยินดีมากๆ กับการตอบสนองจากบุคลากรในทีมต่อเขา และผมก็มั่นใจมากๆ ว่าเจ้าตัวก็พอใจเช่นกัน" อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวสเปนก็เตือนว่า "มันยังเหลือหนทางอีกยาวไกลจนกว่าจะกลับเป็น โรดรี้ คนเดิม"

           กวาร์ดิโอล่า ให้ความเห็นว่า "ให้เดาในช่วงเริ่มฤดูกาลหน้าคงยังไม่เข้าที่เข้าทางอย่างก่อนบาดเจ็บ ที่เคยเล่นได้ 70 เกมต่อซีซัน โม่เกือกทุกๆ สามวัน มันต้องอาศัยเวลานานหน่อยเพราะจากประสบการณ์ที่ผมเจอการผ่าตัดลักษณะนี้ อาศัยความใส่ใจเป็นพิเศษ ไม่อยากนั้นจะโดนปัญหากล้ามเนื้อแทรกซ้อนอีก อะไรเทือกนั้น"

           "แต่นี่คือขั้นแรกของการเยียวยาจิตใจและหัวเข่า ดังนั้นคงยังไม่ได้เห็น โรดรี้ ในแนวทางที่เราเคยรู้จักเขา เกมที่ คราเว่น ค็อตเทจ ก็คงยังไม่ได้ออกสตาร์ต เขายังไม่พร้อมเป็นตัวจริง" เป๊ป กล่าวทิ้งท้าย พร้อมอัปเดตสภาพทีมเพิ่มเติมว่า "ส่วนที่เหลือฟิตสมบูรณ์ขาดแค่ จอห์น สโตนส์ ที่บาดเจ็บ และ มาเตโอ โควาซิช ติดโทษแบน"

[ เกร็ดบอล 7M ]

• การบาดเจ็บเอ็นไขว้เข่าด้านหน้า ถือเป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงและต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวค่อนข้างนาน โดยทั่วไปแล้วนักฟุตบอลที่เข้ารับการผ่าตัด ACL จะต้องพักอย่างน้อย 6-9 เดือน ก่อนจะเริ่มกลับมาลงสนามได้
• การกลับมาในสภาพที่ฟิตเต็มร้อยและสามารถเล่นได้ในระดับเดิมนั้น อาจใช้เวลานานกว่านั้นมาก เนื่องจากต้องมีการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่าและการฟื้นฟูสภาพจิตใจควบคู่กันไป การเร่งรัดนักเตะให้กลับมาเร็วเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บซ้ำหรือเกิดปัญหาแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้